วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

“บางจาก” ห่วงกลไกราคาน้ำมันในประเทศ คาด มาตรการรถคันแรกกระตุ้นยอดขาย อี20

          ายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มราคาน้ำมันช่วงปลายปีนี้ โดยประเมินว่า แนวโน้มมีทิศทางที่จะปรับขึ้นได้ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล ที่มีความต้องการใช้มากในแถบตะวันตก ซึ่งเชื่อว่าราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลก น่าจะอยู่ในระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาในประเทศ ประเมินว่า แม้แนวโน้มราคาจะเพิ่มขึ้น แต่น่าจะอยู่ในระดับไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร
อย่างไรก็ตาม จากนโยบายของกระทรวงพลังงาน ที่จะให้ผู้ค้าปรับมาตรฐานน้ำมันเข้าสู่มาตรฐานยูโรโฟร์ ในปีหน้า ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น โดยน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้นประมาณ 80 สตางค์ต่อลิตร เบนซิน 1 บาทต่อลิตร จะส่งผลให้ราคาน้ำมันปีหน้าขยับขึ้นตามต้นทุน ซึ่งกรณีดังกล่าวขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ที่จะเข้ามารับภาระราคาที่เพิ่มขึ้นจากการปรับมาตรฐานน้ำมัน ให้กับประชาชนหรือไม่

         ขณะที่ผลกระทบจากการยกเว้นเก็บเงินกองทุนน้ำมันเบนซิน ต่อยอดขายแก๊สโซฮอล์ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า แม้จะทำให้สถานีบริการของบางจาก ประมาณ 600 แห่ง ที่ไม่มีน้ำมันจำหน่าย ยอดขายลด แต่บางจากยังขอความร่วมมือให้สถานีบริการดังกล่าว จำหน่ายแก๊สโซฮอล์ต่อไป โดยกำลังรอนโยบายการช่วยเหลือจากภาครัฐ และบางจากอาจเพิ่มค่าการตลาดให้สถานีบริการดังกล่าวเป็นพิเศษ เพื่อช่วยเหลือผู้ค้าปลีก อีกทางหนึ่งด้วย
         ส่วนนโยบายคืนเงินภาษีสรรพสามิตรถคันแรก ตามที่รัฐบาลประมาณการไว้ว่า จะมีผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์โครงการดังกล่าวซื้อรถประมาณ 5 แสนคัน มองว่า อาจจะมีเพียงแค่ 2 แสนคัน และไม่น่าจะทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันเติบโตขึ้นมากนัก แต่เชื่อว่าจะทำให้ยอดขายของ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี20 เพิ่มขึ้น เพราะรถรุ่นใหม่สามารถใช้ได้ ซึ่งปัจจุบันบางจากมีปั๊มจำหน่าย แก๊สโซฮอล์ อี20 จำนวน 500 ปั๊ม ปีหน้าจะเปิดอีก 200 ปั๊ม รวมเป็น 700 ปั๊ม
       โดยปกติ แก๊สโซฮอล์ อี20 มียอดขายที่ 9 ล้านลิตรต่อเดือน คาดว่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มอีกร้อยละ 20 ในปีหน้า ส่วนยอดขายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ 91 จะลดลง ขณะที่ราคาเอทานอลไม่น่าจะดีขึ้น เพราะราคามันสำปะหลัง และโมลาสถูกลง โดยราคาเอทานอลวันนี้อยู่ที่ 23 บาทต่อลิตร และลดลงลิตรละ 1 บาทในไตรมาส 4 ขณะที่ปริมาณการใช้เอทานอลอยู่ที่ 1 แสนลิตรต่อวัน


ที่มา : http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9540000120254

      

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น